sweetnefertari

we're gonna wish upon a star... we never wished upon before

Tuesday, August 30, 2005

คนทรงเจ้า

เวลาดูหนังดูละคร ที่เค้ากล่าวถึงพราหมณ์ หรือแต่งตัวเป็นพราหมณ์ แล้วมากระทำการหลอกลวงชาวบ้าน ทรงเจ้าเข้าผี ทำคุณไสยต่างๆนานา เห็นแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรกัน… เฉยๆใช่มะ ยังงัยๆฝ่ายพุทธก็เป็นพระเอก อย่างเรื่องหลวงพี่เท่งอย่างงี้

ส่วนหญิงเนเฟอร์ฯ(แหะๆ ตัวข้าพเจ้าเอง) รู้สึกแย่จัง… สงสารพราหมณ์ และนึกถึงความรู้สึกของคนที่นับถือศาสนาฮินดู เค้าก็คงอึดอัดใจ ที่มีคนมาดูหมิ่นศาสนา อันเป็นที่รักยิ่งของเค้า เช่นเดียวกับเวลาที่มีใครมาทำให้ศาสนาของเราแปดเปื้อน เช่น การเอาเศียรพระไปตั้งโชว์กับพื้น หรือเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่า รองเท้ายี่ห้อหนึ่งที่ออสเตรเลีย นำเอารูปพระพุทธรูปไปไว้ที่รองเท้า และมีสโลแกนว่า “ให้เดินอย่างระมัดระวัง เพราะทุกอย่างก้าว มีสิ่งมีชีวิตเล็กๆอยู่ใต้เท้า”

ไม่เฉพาะแค่ในหนังในละครเท่านั้น ชีวิตจริงของหญิงเองก็เจอคนทรงอยู่ใกล้ตัวพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นร่างทรงแถวบ้านของเพื่อน และร่างทรงญาติของเพื่อนแม่ (เอ้า..จะงงมั้ยนี่) เข้าใจว่าตัวเองเป็นร่างทรงของพระแม่อะไรสักอย่าง นับถือนิกายศักติ คือ นับถือเทวีของพระอิศวร พระนารายณ์และพระพราหมณ์ ได้แก่ พระแม่อุมา มเหสีของพระอิศวร พระแม่รัศมี มเหสีของพระนารายณ์ ส่วนมเหสีของพระพราหมณ์นี่จำชื่อไม่ได้ ติดไว้ก่อน ป้าร่างทรงคนนี้ เค้าจะทำทุกอย่างตามที่แม่(พระแม่)ของเค้าสั่ง สั่งให้ไม่ทานเนื้อสัตว์ในบางวัน สั่งให้ไม่ทานอาหารหลังเที่ยง สั่งให้ทำนู่น สั่งให้ทำนี่ ฯลฯ อะไรๆแกก็อ้างแม่สั่ง เคยพาหญิงเนเฟอร์ฯเข้าไปในห้องพระของเค้าด้วย แปลกๆ น่ากลัวดี สงสัยอยากให้เราเข้ารีต

มีครั้งหนึ่งแม่ของหญิงความดันลงผิดปรกติ เนื่องจากกินยาผิด ป้าร่างทรงคนนี้แกก็หวังดีเอาน้ำมนต์มาให้แม่ของหญิงดื่ม พร้อมกับสวดมนต์อะไรไม่รู้น่ากลัวมาก แต่เชื่อมะ…หายดันเลย

ไอ้เราก็นึกว่าศักดิ์สิทธิ์จริง ที่ไหนได้ แม่บอกว่า “แม่ตกใจ หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลยสูงขึ้นมาเป็นปรกติพอดี” !!??

เมื่อวานมีโอกาสได้ติดตามนักศึกษาศิลปากรไปโบสถ์พราหมณ์(เสาชิงช้า) สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เมื่อ พ.ศ.2427 พบกับพระราชครูวามเทพมุณี หัวหน้าพราหมณ์หลวง ประจำราชสำนัก ผู้ประกอบพระราชพิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พระราชพิธีพืชมงคล พระราชพิธีฉัตรมงคล พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ฯลฯ (เห็นแกได้ในทีวี ตามวันสำคัญๆดังกล่าว)

ตามเสา ตามประตู ของโบสถ์พราหมณ์ แห่งนี้ จะพบข้อความหนึ่งว่า ไม่รับทรงเจ้า (อ่านแล้วสะใจเล็กๆ)

นั่งฟังพระครูเลคเชอร์ลูกศิษย์ รู้สึกอิ่มใจมาก พระครูมีเมตตาสูง มองเราด้วยความเอ็นดูตลอดเวลา พาเราดูโบสถ์ทั้ง 3 หลัง ซึ่งปรกติจะเปิดเพียงโบสถ์ใหญ่หลังเดียว ให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้ามานมัสการเทวรูปเก่าแก่ ซึ่งรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯให้ชะลอมาจากสุโขทัย เป็นเทวรูปสมัยสุโขทัยตอนปลาย ที่สวยงามมาก ชะลอมาหลายองค์ทีเดียว หลังแรกจะเป็นโบสถ์พระอิศวรและพระพรหมณ์ หลังถัดมาจะเป็นโบสถ์พระพิฆเนศ หรือพระพิฆเนศวร และหลังสุดท้ายเป็นโบสถ์พระนารายณ์ 2 โบสถ์แรกเทวรูปที่เห็นเกือบทั้งหมดยังเป็นองค์จริง แต่หลังที่ 3 เทวรูปองค์จริงถูกนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ เนื่องจากพราหมณ์และเจ้าหน้าที่มีน้อย เกรงของจะหาย

พระราชครูเล่าถึงเรื่องเทวรูป แล้วก็เลยเล่าถึงเรื่องการทรงเจ้าด้วย ว่า ท่านเคยไปงานขึ้นบ้านใหม่ของเศรษฐีใหญ่คนหนึ่ง แกเชิญร่างทรงของ 3 เทพพ่อ แม่ ลูก มาเลย คือ พระอิศวร พระแม่อุมา และพระพิฆเนศ เชิญมาจากคนละจังหวัดด้วย พอมาถึงกอดคอกันร้องไห้ บอก “ไม่ได้เจอกันนาน” ??? พระราชครูถึงกับทนไม่ได้ แม้จะไม่ได้ต่อว่าอะไร แต่ก็ต้องขอตัวลากลับก่อน

ท่านบอกว่า “ศาสนาพราหมณ์ ไม่มีทรงเจ้าเข้าผี” (สะใจใหญ่ๆ ฮาๆๆๆๆ)

รู้แล้วก็อย่าไปเข้าใจอะไรผิดๆอีกละ เห็นใจเค้าบ้าง

ฝากแม่ไปบอกป้าร่างทรงนั้นแล้ว ตามที่พระราชครูบอกเลย ว่าศาสนาพราหมณ์ไม่มีเข้าทรง ไม่รู้แกเอามาจากไหน ใครมาลงทรงแกวะ ฮาๆๆๆๆๆๆ

2 Comments:

At Tuesday, August 30, 2005 8:41:00 PM , Anonymous Anonymous said...

มาแนวไสยศาสตร์แล้วเหรอจ๊ะ แล้วเมื่อไหลเนเฟอจาเป็นร่างทรงให้พระนางเนเฟอตัวจริงมาลงองค์ล่ะ คงสนุกดี

 
At Tuesday, August 30, 2005 9:34:00 PM , Blogger sweetnefertari said...

โอ้ว...นี่จะให้เข้าผีพระนางเนเฟอร์ตารีเลยหรอเจ้าคะ เห็นทีจะไม่ไหว ไม่ใช่ภิกษุณีวรมัยนะเจ้าคะ จะได้นั่งคุยกะพระเจ้าตากได้!!?? (หาอ่านได้จาก "ใครฆ่าพระเจ้าตาก" )

แต่ว่าไม่ได้เปลี่ยนแนวแต่อย่างใด ยังคงอยู่ในมิติของประวัติศาสตร์นะแหละค๊า...ที่ไปหาพระราชครูนี่ ก็เกี่ยวกับทีสิสของตัวเองนี่แหละค่ะ เรื่องพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาไง พระราชครูวามเทพผู้นี้นี่เอง ที่เป็นผู้ประกอบพิธี ถ้าไม่ถามท่านแล้วจะให้ถามใครเน้อ

 

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home