sweetnefertari

we're gonna wish upon a star... we never wished upon before

Wednesday, August 30, 2006

น้ำหวาน


คนกับหมา เป็นของคู่กันมาช้านาน สังเกตได้จากภาพเขียนสีตามผนังถ้ำหลายต่อหลายภาพ ระบุว่า เราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับหมา มาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์

หลายคนมีหมาในอุดมคติ และใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นเจ้าของ แต่ไม่มีโอกาส

ขณะที่บางคนก็สามารถเป็นเจ้าของพวกมันเหล่านั้นได้

และก็มีอีกบ้างบางคน ที่เมื่อได้มันมาแล้ว กลับไม่ใส่ใจดูแล ทิ้งขว้าง เพียงเพราะมันไม่ได้ดั่งใจหวัง

ทั้งที่ หมามันก็มีลักษณะนิสัยลักษณะเฉพาะตามสายพันธุ์ เพียงแต่ผู้ต้องการจะเลี้ยงต้องศึกษานิสัยให้ดีเสียก่อนว่า เป็นที่ถูกใจกับเราหรือไม่ เข้ากับเราหรือไม่ ก็จะลดปัญหาลงไปได้มาก

บางตัวกินยาก บางตัวก็ดุเกินไปควบคุมไม่ไหว บางตัวอยากให้ดุ มันก็ดันไม่ดุ บางตัวหูเหม็น บางตัวขนยาว ต้องอาบน้ำบ่อย ต้องสางขนบ่อย เบื่อไม่ว่าง ไม่มีเวลา สารพัดเหตุผลมาอ้าง เพื่อละทิ้งพวกมัน
...

“น้ำหวาน” หมาน้อยเพศเมียพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี หลายคนชื่นชอบสุนัขพันธุ์นี้

แต่น่าสงสารเจ้าหมาน้อย ที่ต้องมาอยู่กับคนใจหมา

เมื่ออยากได้ก็เอามันมา เมื่อเบื่อก็ทิ้งขว้างมันไป ไม่ใส่ใจดูแล

อาหารเทกองวางไว้ คราวละมากๆ สำหรับหลายวัน ไม่สนใจว่าราจะขึ้นหรือไม่ ไม่เคยล้างถาด อยากกินก็กิน ไม่กินก็เรื่องของเอ็ง

ไม่อาบน้ำ ไม่สางขน ปล่อยไว้จนเป็น “ขี้เรื้อนเปียก” เกาจนทั้งตัวมีแต่เลือด หน้าเหวอะเป็นแผลลึก

ไม่กำจัดเห็บหมัด พาหะของโรคร้ายหลายชนิด

...

เมื่อเจ้าของไม่รักมันเช่นนี้แล้ว การยกให้คนอื่นจึงไม่ใช่เรื่องยาก

ที่สุด “บอย” เพื่อนของฉัน ก็ได้เจ้าน้ำหวานมาดูแล



เราช่วยกันรักษาจนขี้เรื้อนหายเกือบสนิท

บอยรักน้ำหวาน น้ำหวานก็รักบอยเช่นกัน

ทุกอย่างกำลังไปได้สวย

แต่วันหนึ่งพบว่า เจ้าน้ำหวานมีอาการสั่งน้ำมูกเลือดออกมา

เมื่อพาไปหาหมอ จึงพบว่า มันเป็น
“โรคพยาธิในเลือด”

มันเลือดน้อย มันอ่อนเพลีย และมันกำลังจะตาย

...

ทางเดียวที่จะรักษามันได้ คือ ฆ่าพยาธิ และการหาเลือดมาเติมให้มัน และจำกัดว่า ต้องเป็นเลือดสด เพิ่งถ่ายมาใหม่ๆ

เราเตรียมหมา 2 ตัว แต่ใช้ไม่ได้ ตัวหนึ่งอ้วนไป เกร็ดเลือดต่ำ อีกตัวหนึ่งก็แก่ไป

เราเฝ้าขอหมาจากคนที่เรารู้จักอีกหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยากเย็น

เราจึงได้แต่ “รอ” ว่าเมื่อไรหนอ จะได้รับเลือดจากผู้ใจบุญ ที่นำหมาของเขามาบริจาค

หลายวันผ่านไป เราก็นำหมาขอเรามารออีกตามเคย

แต่ไม่เหมือนเคย เพราะวันนี้เราได้ข่าวดี

ทางโรงพยาบาล ได้รับเลือดบริจาคแล้ว

เรารออีกครั้ง เพื่อดูผลตรวจว่าเลือดของหมา 2 ตัว จะเข้ากันได้หรือไม่

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเราได้รับข่าวดีอีกครั้ง

เลือดเข้ากันได้

...

4 ชั่วโมงจากนี้ไป คือ การถ่ายเลือด

เราต้องลุ้นอีกเช่นกันว่า จะมีอาการแพ้หรือไม่ ถ้าแพ้ เจ้าน้ำหวานจะหอบจัด จนถึงชัก

โชคดีอีกครั้ง น้ำหวานไม่แพ้

เราดูชื่อที่ถุงเลือด ว่าเลือดนี้ได้มาจากใคร

เราซาบซึ้งดีใจ

ขอบคุณมาก “เจ้าทาซาน” (และเจ้าของ)
...

รุ่งขึ้นเรานำน้ำหวานมาเช็คอีกครั้งตามหมานัด

เราพบว่า ยังมีสุนัขอีกมากมายที่ไม่โชคดีเหมือนเจ้า “น้ำหวาน”

ยังมีอีกหลายชีวิต ที่ยังรอคอย “เลือด”

ที่นั่งใกล้กับเรา ตัวหนึ่งโดนรถชน ตาฉีก ปอดฉีก หัวใจกลับข้างมาอยู่อีกฝาก

อีกตัวหนึ่งเป็นโลหิตจาง อาการน่าเป็นห่วง

และคาดว่าที่โรงพยาบาล ยังมีอีกหลายชีวิตที่กำลังรอคอยเช่นกัน เพียงแต่เราไม่รู้ไม่เห็น

สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของสุนัข ที่มีอาการอย่างน้ำหวาน บางคนต้องอุ้มหมามารอเลือดอยู่หลายวัน ถ้าโชคดีก็ได้ โชคไม่ดีก็อุ้มกลับ พรุ่งนี้มาค่อยใหม่ อยู่อย่างนี้เรื่อยไป
...

ขณะนี้ ทางโรงพยาบาลสัตว์เกษตรต้องการรับบริจาคเลือดเป็นจำนวนมาก หากท่านใดมีสุนัข ที่มีอายุระหว่าง 2 – 6 ปี สุขภาพแข็งแรง น้ำหนัก 20 กิโลกรัมขึ้นไป ขอเชิญชวนให้นำสุนัขของท่าน มาช่วยกันบริจาคเลือด ยังมีชีวิตน้อยๆอีกมากมายที่รอรับน้ำใจจากท่าน

4 Comments:

At Saturday, September 09, 2006 10:32:00 AM , Anonymous Anonymous said...

เชิญชวนไปบริจาคกันเยอะๆครับ...แล้วท่านๆจะได้พบกับสารพัดสัตว์ที่มาหาหมอที่ รพ.สัตว์เกษตรตั้งแต่สัตว์เลี้ยงธรรมดาพวก หมา แมว กระต่าย นก งู เต่า ไปจนถึงพวกสัตว์ป่าคุ้มครองอย่างนางอายก็เคยเจอ...

 
At Sunday, September 10, 2006 4:14:00 AM , Blogger sweetnefertari said...

การไปรพ.สัตว์ เราจะได้พบเรื่องดีๆมากมาย คนรักสัตว์ส่วนใหญ่จะใจดี และเป็นมิตร

แต่ก็มีบ้างที่เราพบว่า บางคนก็สักแต่จะเลี้ยง โดยรู้เท่าไม่ถึงการ

เช่น

การเลี้ยงนางอาย ซึ่งเป็นสัตว์สันโดษชอบอยู่ตัวเดียว และหวงถิ่น แต่เจ้าของกลับเลี้ยงไว้ถึง 4 ตัว ก็ไม่รู้ว่าพอมันโตขึ้นมันจะอยู่กันยังไง

เช่นเดียวกับพิกบุล หมาที่ขึ้นชื่อว่าดุที่สุดในโลกสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งจะกัดจนกว่าเหยื่อจะแน่นิ่งไป แต่เจ้าของเลี้ยงมันไว้กับลาบราดอว์ หมาเชื่องใจดี ก็ไม่รู้ว่าโตขึ้นเจ้าลาบราดอว์ตัวนี้จะอยู่ยังไงเหมือนกันนะคะ

วิธีแก้ไขมีทางเดียว คือ การศึกษาเรื่องของเจ้าตัวที่เราจะเลี้ยงและนิสัยประจำสายพันธุ์ของมันให้ดีเสียก่อน หรืออย่างน้อยที่สุดก็หลังจากที่เลี้ยงเค้าแล้วก็ยังดี

แต่ปัญหาส่วนใหญ่คือ คนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ชอบการศึกษา นิยมใช้แต่ประสบการณ์ ซึ่งก็ย่อมหนีไม่พ้นกับ "ความเสี่ยง" ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา

ข้อสงสัยอีกอย่างหนึ่งคือ แล้วเจ้าสัตว์พวกนั้นล่ะ มันพร้อมรับความเสี่ยงกับคุณรึเปล่า??

 
At Monday, October 02, 2006 11:03:00 PM , Anonymous Anonymous said...

รักหมาอ่ะ ขอให้คนใจร้ายกะหมาเกิดใหม่มาเป็นหมาขี้เรื้อน100ชาติ

 
At Monday, October 23, 2006 7:35:00 PM , Blogger crazycloud said...

หมาต่างดาว ปี๊บ ปี๊บ

 

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home