sweetnefertari

we're gonna wish upon a star... we never wished upon before

Saturday, November 12, 2005

เที่ยววัดวังหลวง


16 ตุลาคม พ.ศ. 2548

ในที่สุด ก็ได้โอกาสเข้าไปชมความงามของพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดารามกะเค้าซะที หลังจากที่ผัดผ่อนตัวเองมานาน โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจาก ratioscripta ผู้เป็นทั้ง คนขับรถ คนนำทาง คนถือของ ฯลฯ ดีใจจังที่โลกนี้มีratioscripta (ยืมคำมิ้มมาใช้ แหะๆ)


การไปครั้งนี้มิใช่เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เป็นด้วยความตั้งใจที่จะหาข้อมูล เพื่อใช้ทำวิทยานิพนธ์ เรื่อง "พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา" เนื่องด้วยการถือน้ำฯสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นี้ กระทำกันที่อุโบสถวัดพระแก้วเป็นส่วนใหญ่ การมาเห็นด้วยตาตัวเองนั้นจึงเป็นการสมควร

ไม่แปลกใจเลยที่พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วจะเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติ เพราะไม่เพียงแต่อาณาบริเวณที่กว้างขวางแล้ว ทุกตารางนิ้วยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความวิจิตรบรรจง อันหาค่ามิได้

สถานที่แรก ที่เราเข้าชม คือ พิพิธภัณฑ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ คนไทย 10 บาท ได้โบว์ชัว 2 ฉบับ คือเรื่องเครื่องยศ และเรื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย ส่วนต่างชาติ 250 บาท เที่ยวได้ทั่วงาน แล้วยังได้โบว์ชัวเยอะแยะเลย อยากได้จัง ไม่มีขายด้วย เลยเก็บตกเอาตามพื้น อนาจตัวเอง แต่เอาเถอะ ยังไงก็ได้มา 2 แผ่น

สถานที่ 2 คือ ก็คือในส่วนของ "วัดพระแก้ว" นั้นแหละ ชมพระระเบียง ซึ่งสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 มีลักษณะเป็นอาคารยาวล้อมอยู่โดยรอบ ที่ผนังมีภาพจิตรกรรมเรื่องรามเกียรติ์ ทำไมต้องเป็นเรื่องรามเกียรติ์นะรึ ก็เนื่องจาก ไทยเราเปรียบองค์กษัตริย์ว่าเป็น "พระราม" มาตั้งแต่สมัยปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยานู้น...

แสดงออกโดยการใช้พระนามว่า พระเจ้ารามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) แล้วตั้งชื่อเมืองว่า “อโยธยา” อันเป็นชื่อเมืองของพระราม หมายถึง เมืองที่ไม่มีวันตีแตก ฟังดูคล้ายๆไททานิกยังไงไม่รู้ แล้วก็ไม่วายแตกเช่นกัน เห่อๆ ไหนๆก็แตกแล้ว จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “อยุธยา” มันซะเลย ถ้าเข้าใจไม่ผิด ความเชื่อนี้สืบสานต่อมาจนถึงปัจจุบัน เห็นได้จากการที่เราให้ต่างชาติออกเสียงพระนามรัชกาลต่างๆ ตั้งแต่ 1-9 ว่า Rama I – IX หรือตั้งเป็นชื่อสะพานพระรามต่างๆ เพื่อเป็นพระเกียรติแก่กษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทุกพระองค์

ชมระเบียงเสร็จแล้ว เดินมาอีกนิดจะเป็นหอพระมณเทียรธรรม ที่ประดิษฐานพระไตรปิฎก และปราสาทพระเทพบิดร ที่ประดิษฐานพระเทพบิดร อันเป็นตัวแทนของพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) เดินเข้าไปอีกหน่อยก็ได้ยินเสียงพระสงฆ์สวดมนต์ออนแอร์จากพระอุโบสถ โดยมีคนไทยหัวใจธรรมะมานั่งสมาธิบ้าง สวดมนต์บ้าง แล้วแต่ถนัด เห็นแล้วนึกถึงนายเมฆบ้า ผู้ช่ำชองเรื่องพุทธศาสนา ถ้ามาด้วยสงสัยจะสวดแข่งกะพระเลย 55

ที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอนคือ การสักการะพระแก้วมรกต ชมความงามได้เพียงครู่ก็ต้องรีบจากไป มิใช่ด้วยรังเกียจที่ยังบูรณะไม่เสร็จ หากแต่ด้วยเงื่อนไขของเวลา ก่อนไป เราทำบุญกันคนละ 20 บาท โดยหวังว่าเงินเพียงน้อยนิดนี้ อาจเป็นส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งในการช่วยให้พระแก้วคงความสวยงามและอยู่คู่บ้านเมืองของเราไปอีกนานๆ

ขาออกมีบูธขายหนังสือเล็กๆ อยากได้ทุกเล่มแต่งบประมาณมีจำกัดจึงตัดสินใจซื้อแต่เพียง "ประวัติวัดพระศรีรัตนศาสดาราม" ราคาเพียง 20 บาท แต่ไม่น่าเชื่อคุณภาพคับเล่มจริง แต่งโดยศาสตราจารย์ ม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล ยัง ยังไม่พอ คำนำเขียนด้วยลายมือ ลงชื่อว่า “สิริธร” Oh...my God น้ำตาจะไหล คุ้มสุดคุ้ม

หลังจากพรมน้ำมนต์กันคนละ2-3หยด และratioscriptaถ่ายรูปพระแก้ว ได้ภาพสุดเท่ไกลลิบไม่ต่างจากภาพถ่ายคอนเสิร์ตพี่เบิร์ด เนื่องจากถ่ายจากด้านนอกแล้ว เราจึงตัดสินใจไปชมสถานที่อื่นกันต่อ

เราเข้าสู่บริเวณ"พระบรมหาราชวัง" พระที่นั่งแรกที่เจอคือ พระที่นั่งบรมพิมาน ซึ่งเราทำได้เพียงชื่นชมจากด้านนอก เราเลยเข้าไปดูหอราชศาสตราคมที่อยู่ถัดไปแทน ใกล้กันเป็นหมู่พระมหามณเฑียร สร้างเรียงเคียงชิดกันอยู่ อันได้แก่ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย แต่เจ้าสายตาน่ะ มันมุ่งผ่านไปหยุดที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สวยงาม แต่ก็นะ กำลังบูรณะอยู่ อดดูอีกตามเคย

พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท กำลังบูรณะ

นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามได้จากด้านนอก

...............

ยังไม่สะใจเลย สงสัยต้องไปอีกรอบ ส่วนภาพข้างล่างนี้ เห็นว่าน่ารักดีเลยนำภาพมาฝากกันค๊า...

พี่ทหารกำลังทำหน้าที่เฝ้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทอย่างขมักเขม้น

ไม่หวั่นไหวแม้แสงแดดจ้า และแสงเฟรต จนบางคนนึกว่าเป็นหุ่นก็มี อิ อิ

...

ปล.

ช่วงนี้ต้องขอลาพี่ๆน้องๆไปเที่ยวหลายวัน เอาไว้กลับมาจะมาโม้เรื่องสนุกๆให้อ่านกันอีกนะคะ

9 Comments:

At Sunday, November 13, 2005 5:26:00 AM , Anonymous Anonymous said...

Whew
Typepad's been mucking about all day so I've only been posting over on Kotaku - and shopping with Aleks and friends.
Hi, I was just blog surfing and found you! If you are interested, go see my buy related site. It isnt anything special but you may still find something of interest. Come in and check it out if you get time :-.

 
At Sunday, November 13, 2005 11:16:00 AM , Anonymous Anonymous said...

แหม..
มายืมกันโต้งๆ
เขินนะตัว
....
มิ้มอยากดูโขนน่ะ ไวท์
พอรู้รายละเอียดอะไรบ้างเอ่ย
ขอบคุณค่ะ

 
At Sunday, November 13, 2005 12:23:00 PM , Anonymous Anonymous said...

ดีจัง อยากไปเหมือนกันค่า อยากดูภาพจิตรกรรมเรื่องรามเกียรติ์อ่ะค่ะ

ปล เพิ่งรู้นะเนี่ยว่า ratio scripta เค้าฮ๊อตขนาดไหน อิอิ

 
At Sunday, November 13, 2005 6:31:00 PM , Blogger sweetnefertari said...

มิ้มจ้า...ไวท์ไม่รู้จักโขนที่ไหนเลย นอกจากหุ่นเล็กโจ หลุยส์ อะค่ะ ไปดูมะ น่าสนใจนะ ดูรอบ 2 ทุ่ม เที่ยวต่อเลย55

ภาพที่พระระเบียงวัดพระแก้วสวยงามมากค่ะพี่หญิง แต่บางภาพก็บูรณะแบบงงๆ คือ แทนที่จะคงของเดิมไว้ให้มากที่สุด กลับไปเขียนเติมซะอย่างงั้น เช่น ภาพลิงใส่แว่น นั่งอ่านหนังสือพิมพ์เนี่ย ไม่ค่อยปลื้มเลยค่ะ

ปล.ตาratio scriptaมันคนของประชาชนค่ะพี่หญิง เลือกตั้งสมัยหน้า ก็ว่าจะส่งมันลง สว. ซะเลย อิ อิ (เพราะคิดแล้วว่าจะเอาดีทางโมเดลลิงก็คงจะไม่ไหว55)

 
At Monday, November 14, 2005 3:54:00 AM , Anonymous Anonymous said...

มาอ่านแล้วนะจ๊ะไวท์ ชอบจังเราอยากไปเที่ยวบ้าง เกิดมายังไม่เคยชมพระบรมมหาราชวังเต็มๆเลยซักที อยากไปๆๆๆ ชอบที่เขียนมานะจ๊ะ อ่านแล้วได้ความรู้ดีจัง

 
At Tuesday, November 15, 2005 3:33:00 PM , Blogger crazycloud said...

เดินทางโดยเครื่องบินนะจ๊ะ

อิ อิ โดยสวัสดิภาพต่างหาก

 
At Tuesday, November 15, 2005 6:38:00 PM , Blogger sweetnefertari said...

เอาไว้กลับมาจะพาไปดูนะจ๊ะแต้ว...

กลับมาเจอกัน เดี๋ยวสวย(ลืมไป ตอนนี้ก็สวย โฮ๊ะๆ)แต่ยังไงก็ขอบคุณพี่โตที่อวยพรนะคะ ไปอาบน้ำก่อน จะเดินทางแล้น...

 
At Thursday, November 17, 2005 6:36:00 PM , Blogger Kidsya..(>~<) said...

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันคะ คุณ sweet-nefertari เรียกฉันว่า เป้ละกันนะคะ

ถ้าหากมาที่พิษณุโลกก็มาเที่ยวที่วัดพระพุทธชินราชซิคะ ยินดีต้อนรับ

ปล. ไม่เคยรู้จักคำว่าแก่ (หึ หึ หึ)ไม่จริ้งไม่อยากได้ยิน

 
At Saturday, November 26, 2005 12:32:00 AM , Blogger sweetnefertari said...

ยินดีที่ได้รู้จักอีกทีค่ะ คุณเป้

...

ปล.
ถึงเพื่อนๆทุกคน หญิงไวท์กลับมาแล้วเจ้าค่าเอ้ย...

 

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home