sweetnefertari

we're gonna wish upon a star... we never wished upon before

Saturday, April 15, 2006

หนีร้อนไปเวนิส

ช่วงนี้อากาสมันร้อนเหลือ เพื่อนโทรชวนไปเล่นน้ำสงกรานต์ ก็เกิดอาการเบื่อๆอยากๆ จะไปดีไม่ไปดี เนื่องจากทำทีสิสไม่เสร็จซะที จะไปไหนก็เลยเกิดอาการไม่ค่อยอยากไปเท่าไร เพราะไปเที่ยวเล่นทีไร กลับมาก็ต้องรู้สึกผิดทุกที ว่าไม่น่าไปเลยเรา วันนี้ไม่ได้ทำงานอีกแล้ว ทำนองนั้น
ไหนไหนไม่ได้ไปไหนทั้งที มานั่งเขียนเรื่องท่องเที่ยวมันซะเลย ประชดตัวเอง 55
...
มีอยู่เมืองหนึ่งที่ตกค้างจากการเล่าเรื่องไปทัวร์สวิตฯกับอิตาลี เมื่อคราวที่แล้ว เมืองนี้ เป็นเมืองที่ประทับใจมากที่สุดในทริปเลย มันรู้สึกอย่างกับระลึกชาติได้ อินเข้าไปในสายเลือด น้ำตาจะไหลทันทีที่เยียบแผ่นดินเวนิส

ใครจะว่าเวอร์ก็ว่าไปเถอะนะ เพราะมันก็เวอร์จริงๆนั่นแหละ อิอิ

ไอ้ที่ว่าประทับใจนั้น จะสวยงามแค่ไหน เชิญทัศนาเอาจากในรูปที่เลือกมาให้ดูก็แล้วกันนะเจ้าค่ะ

นี่ไง รูปนี้ถ่ายจากในเรือ ขณะข้ามไปยังเวนิสเป็นอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ก็สวยดีใช่มั๊ยล่ะค่ะ


รูปนี้ถ่ายตัวเองที่จตุรัสเซนต์มาร์ค นกพิราบเต็มเลย ตอนถ่ายรึว่าจะได้ภาพนกบินซะอีกนะนี่

แหงนหน้าขึ้นไปเจอหน้าบัน

ต๊กกะใจนึกว่าหลงไปหลวงพระบาง ทองอร่ามซะขนาดนั้น

แต่จริงๆแล้วเป็นศิลปะแบบไบเซนไทน์เจ้าค่ะ

จตุรัสเซนมาร์ค โบสต์เซนมาร์ค หอคอย และทางซ้ายมือจะเห็นหอนาฬิกา

กำลังบูรณะอยู่ค่ะ แต่เค้าใช้รูปภาพขนาดเท่าของจริงมาบังไว้ทุกด้าน

เพื่อมิให้ทัศนียภาพด้อยดูลงไป

จตุรัสนี้ สร้างตั้งแต่คริสตศตวรรตที่ 12 นู้นส่วนตัวโบสถ์นะเก่ากว่าอีกแหนะ โบสถ์นี้สร้างเพื่ออุทิศให้กับเซนต์มาร์ค ตำนานเค้าว่ากันว่า ในปี 832 มีลูกเรือชาวเวนิส 2 คน ขโมยส่วนขาของเซนต์มาร์คมาจากสุสานในเมืองอเล็กซานเดรีย แห่งราชอาณาจักรอียิปต์ นับแต่นั้น ทั้งโบสถ์และขาของเซนต์มาร์ค ก็กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวนิสไปเลย แต่กว่าจะสวยงามอย่างที่เห็นได้นี่ก็ถูกทำลาย และถูกบูรณะใหม่อยู่หลายรอบทีเดียว

แต่ว่าตอนนี้นะ เวนิสกำลังร้องไห้ เพราะเวนิสกำลังประสบกับวิกฤติกาลที่สำคัญและแก้ไม่ตก คือ น้ำท่วมค่ะ หรืออีกนัยหนึ่งคือ "เวนิสกำลังจะจม" โอ...มายจ๊อด อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย

เคยได้ยินข่าวนี้มานาน เพิ่งเห็นด้วยตาตัวเองก็คราวนี้ ขณะที่เรากำลังเดินอยู่ในโบสถ์เซนต์มาร์ค น้ำก็ค่อยๆท่วมขึ้นมา เจ้าหน้าที่ก็จัดทำสแตนเป็นทางเดินไว้ สำหรับหนีน้ำ น้ำท่วมทีก็เอาสแตนมาเรียงๆให้เดินที น้ำลดก็เอาออก เหมือนเป็นเรื่องปรกติ ไกด์บอกว่าบางทีท่วมถึงเพดานชั้นหนึ่งเลยก็มี กรี๊ด...

ทางการอิตาลีก็พยายามสรรหาสารพัดวิธี ที่จะเอาชนะธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น การสร้างเขื่อนกั้นคลื่นน้ำ ที่ซัดเข้าหาฝั่ง การสร้างเขื่อนในทะเล ที่ว่ายากแล้ว ยังต้องทำให้มันเปิดปิดได้ เพื่อรองรับเรือเดินสมุทรอีก เรียกว่า การสร้างเขื่อนครั้งนี้หินเอาการ ยังไงก็ขอให้คาวมพยายามครั้งนี้สัมฤทธิ์ผลก็แล้วกันนะ เอาใจช่วยเจ้าค่ะ

เพิ่งรู้เหมือนกันนะว่าเวนิสก็มีชื่อเรื่องเป่าแก้วด้วย สินค้าของเค้าเนี่ยสวยงามเชียวแหละ สร้อยคอ ต่างหู กำไร บางร้านมีเครื่องแก้วที่เอามาทำเป็นหน้าปัดนาฬิกา หลากหลายแบบระรานตาไปหมด ราคาพอต่อรองกันได้ แต่ต้องใจเย็นๆ เดินดูหลายๆร้านก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะมิฉะนั้น คุณอาจจะได้นาฬิการาคา 18 ยูโร ทั้งที่คนอื่นเค้าซื้อกันแค่ 13 ยูโรก็เป็นได้

จากในภาพจะเห็นเครื่องประดับนานาชนิด รวมทั้ง หน้ากาก สินค้ามีชื่อ อีกอย่างหนึ่งของเวนิส สวยงามมากทีเดียว

...

ไม่ว่าความประทับใจต่อเวนิสจะมากแค่ไหน แต่ทัวร์ลูกเป็ด ก็คือ ทัวร์ลูกเป็ด ไกด์ 2 คน เดินนำลูกทีม 80 คน ราวแม่เป็ดพาลูกน้อยเดินแถวลงเล่นน้ำก็ไม่ปาน กับเวลา 8 วัน กับสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่แสนจะอยู่ห่างไกลกันหลายร้อยกิโลต่อที่ ซึ่งระบุไว้ในกำหนดการ และจำเป็นต้องไปให้ครบตามข้อตกลงก่อนการซื้อทัวร์ เวนิสที่กว้างใหญ่ สวยงามเต็มไปด้วยศิลปะ และร้านค้าสำหรับนักช็อบอย่างเรา กับเวลาแค่ชั่งโมงครึ่ง มันจะไปพอยาไส้อะไร๊ ให้ตายเหอะ

ต้องมาใหม่ให้ได้...เวนิส แบบไม่ใช่ทัวร์ลูกเป็ดด้วย ฉันเกลียดแกเจ้าทัวร์ลูกเป็ด อีชั้นคิดอย่างนั้นในใจ ก่อนที่จะจากเวนิส เพื่อไปยังที่หมายต่อไป