sweetnefertari

we're gonna wish upon a star... we never wished upon before

Wednesday, October 19, 2005

คำไว้อาลัยแด่ อ.ทวีพร ทองคำใบ โดย ดร.วินัย พงศ์ศรีเพียร

วันนี้ฉันได้รับอีเมลคำไว้อาลัยอ.ทวีพรจาก ดร.วินัย พงศ์ศรีเพียร จึงนำมาลงไว้ให้ได้อ่านกัน โดยมิได้ตัดทอนหรือแก้ไขแต่อย่างใด ซึ่งในการนี้ ได้รับการอนุญาตจากเจ้าตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังต่อไปนี้
...

อาลัยคุณทวีพร ทองคำใบ

ผมรู้จักคุณทวีพร ทองคำใบมานานกว่าสิบปี ตั้งแต่ปลาย พ.ศ. 2537 เมื่อครั้งที่คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ช่วงที่ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล เป็นประธาน) และกรมวิชาการ (ช่วงที่คุณหญิง ดร. กษมา วรวรรณ เป็นอธิบดี) ได้ร่วมมือกันจัดทำเอกสารวิชาการรายสามเดือน “โลกประวัติศาสตร์” เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และไทยศึกษา ผมได้รับแต่งตั้งเป็นประธานอนุกรรมการจัดทำเอกสารดังกล่าว โดยมีดร. สมพร จารุนัฏ เป็นผู้ประสานงานด้านกรมวิชาการ อาจารย์สมพร ได้ชักนำให้คุณทวีพร ทองคำใบเข้ามาเป็นอนุกรรมการฝ่ายศิลปกรรม ผมมีความรู้สึกว่า โลกเรานี้ช่างกลมเหลือเกิน เพราะปรากฎว่า คุณทวีพร ทองคำใบ เคยเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์จุลทัศน์ พยาฆรานนท์ อนุกรรมการอาวุโส มาก่อนทั้งที่วิทยาลัยเพาะช่างและมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) เราจึงทุ่มเทใจทำงานเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ผมและเพื่อนร่วมงานยอมรับว่า โลกประวัติศาสตร์ ประสบความสำเร็จเป็นที่นิยมของครูอาจารย์ผู้สอนสังคมศึกษา เพราะฝีมือด้านศิลปกรรมของคุณทวีพรอย่างแท้จริง

ผมได้คุ้นเคยกับคุณทวีพรมากขึ้นเพราะระหว่างทำเอกสารวิชาการ โลกประวัติศาสตร์ ต้องออกไปเก็บข้อมูลและถ่ายภาพโบราณสถานในต่างจังหวัดบ่อยๆ และผมได้มีโอกาสช่วยงานกรมวิชาการเสมอมาในด้านการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ผมสังเกตว่า คุณทวีพรเป็นคนเอาจริงเอาจังกับงานตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางไปราชการที่สุโขทัยด้วยกัน ผมได้ถือโอกาสไหว้วานคุณทวีพรให้ถ่ายภาพพิเศษคือ พระจันทร์ลอยเหนือวัดพระมหาธาตุ เมืองเก่าสุโขทัย ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บของเดือนมกราคม เวลา 05.00 น. คุณทวีพร ก็ไปถ่ายภาพให้เพื่อให้ได้ทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์อยู่ในภาพเดียวกัน คุณทวีพร ทองคำใบ เป็นศิลปินที่มีความสามารถระดับแนวหน้าของประเทศ และวาดภาพบุคคลได้สวยเป็นพิเศษ ผมได้ขอให้คุณทวีพรวาดภาพบุคคลที่เราเคารพนับถือในโอกาสพิเศษที่พวกเราทำหนังสือให้ท่านเหล่านั้น เช่น ท่านผู้หญิงวรุณยุพา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร ศาสตราจารย์วิสุทธ์ บุษยกุล รองศาสตราจารย์วุฒิชัย มูลศิลป์ พลตรี หม่อมราชวงศ์ศุภวัฒย์ เกษมศรี คุณหญิงคณิตา เลขะกุล อาจารย์จุลทัศน์ พยาฆรานนท์ และดร. เกษม ศิริสัมพันธ์ นอกจากนี้ คุณทวีพร ยังได้ทิ้งมรดกทางศิลปะไว้ในรูปของดวงตราไปรษณียากรนับร้อยดวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพวาดเรือพระสุพรรณหงส์ ที่เรารู้จักกันดี แต่สิ่งที่น่าทึ่งมากก็คือ คุณทวีพร มีความสามารถด้านการแต่งคำประพันธ์ในระดับที่ดีมากด้วย และเคยส่งผลงานนิราศมาให้ผมอ่านและวิพากษ์วิจารณ์ แต่ผมก็ไม่อาจหาที่ผิดที่อยากจะแก้ได้เลย

คุณทวีพร เป็นคนสมถะ มองโลกในแง่ดี ไม่เคยทำบาป ขนาดไม่เคยรับประทานเนื้อสัตว์ใหญ่ มีความสุขกับการทำงานที่รัก ผมได้เคยปรารภแก่คุณทวีพร เสมอว่า เรามีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ เป็นคนสมถะ ถือเอางานมาก่อนเงินและเกียรติยศ ผมกล่าวแก่คุณทวีพรว่า ผมไม่มีอะไรเลย เป็นข้าราชการผู้น้อย มีเงินก็เอาไปซื้อหนังสือเสียเกือบหมด รถราก็ไม่มีขับเหมือนคนอื่นเขา แต่ผมโชคดีที่สุดอย่างหนึ่งตรงที่ว่า ผมอยู่ในท่ามกลางคนดีและผู้ใหญ่ที่มีเมตตาธรรม คุณทวีพรก็เป็นหนึ่งในนั้น เราอยู่ในกลุ่มคนดีที่ยกมือไหว้แล้วไม่ต้องรีบร้อนไปล้างเสนียดออก

คุณทวีพร ทองคำใบได้ฝากผลงานที่สำคัญที่สุดไว้ เมื่อได้กรุณาสละเวลามาช่วยผมและโครงการวิจัย “กฎหมายตราสามดวง: ประมวลกฎหมายไทยในฐานะมรดกโลก” จัดงานที่รำลึก ครบ 200 ปี ประมวลกฎหมายดังกล่าว ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จทรงเป็นประธาน ณ โรงแรมตวันนา รามาดา เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2548 คุณทวีพร ไม่เพียงแต่ช่วยวางรูปแบบให้หนังสือชุด “กฎมณเทียรบาล ฉบับเฉลิมพระเกียรติ” ทั้งสองเล่มเป็นหนังสือวิชาการที่มีคุณค่าสมกับโอกาสอย่างเป็นที่สุดแล้ว ยังได้ฝากฝีมือวาดภาพสีน้ำจำลองพระราชวังหลวงที่พระนครศรีอยุธยาจากข้อมูลด้านประวัติศาสตร์และคำปรึกษาของอาจารย์จุลทัศน์ พยาฆรานนท์ ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ภาพวาดใหญ่ขนาดโปสเตอร์นี้ซึ่งได้นำออกแสดงในวันที่จัดนิทรรศการ 200 ปีกฎหมายตราสามดวง ณ โรงแรมตวันนา รามาดา ถือเป็นอนุสาวรีย์แห่งความสำเร็จของคุณทวีพร ทองคำใบ ที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจประวัติศาสตร์ไทยตลอดไป

ผมสลดใจและไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คุณทวีพร ทองคำใบ กัลยาณมิตร ได้จากไปแล้ว จากไปอย่างกระทันหันในเช้าวันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2548 ผมไม่เคยคิดว่า คุณทวีพร เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ อุบัติเหตุคือ สิ่งที่ป้องกันไม่ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่คุณทวีพรเป็นสิ่งที่ใช้มาตรการป้องกันได้ ผมขอพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า นี่เป็นฆาตรกรรมที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า การจากไปของคุณทวีพรไม่สูญเปล่า เพราะได้ฟ้องแก่สาธารณชนว่า องค์การขนส่งมวลชนล้มเหลวไม่ว่า ด้านบริหาร การจัดการ หรือการให้บริการที่ปลอดภัย

ขอให้คุณงามความดีทั้งปวงที่ได้คุณทวีพรได้กระทำไว้แก่สังคมในภพนี้ นำพาดวงวิญญาณของคุณทวีพรไปสู่สัมปรายิกภพแห่งความสุขสันติที่นิรันดร์

วินัย พงศ์ศรีเพียร

Tuesday, October 18, 2005

ทวีพร ทองคำใบ, ไว้อาลัยตลอดกาล

18 ตุลาคม พ.ศ. 2548 เย็นวันนี้ฉันกลับบ้านด้วยความเหนื่อยจากการเดินทาง เปิดทีวีช่อง 3 ผู้สื่อข่าวรายงาน “ข่าวรถเมล์เบรคแตกชนคน”

รถเมล์สาย 30 สีฟ้าขาว เบรคแตกจากบนสะพานแถวเกียกกาย ความแรงของรถที่เหยียบมาเต็มที่และเบรคแตกบวกแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้รถเมล์คันนั้นพุ่งเข้าชนรถกระบะ จนรถกระบะผู้โชคร้ายหมุนไปติดฟุตบาต ไม่พอรถเมล์เจ้ากรรมยังชนคนขี่จักรยานผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ติดใต้ท้องรถมาด้วย รอยเลือดเป็นทางยาว 500 เมตร จากแยกเกียกกายถึงรร.โยธินบูรณะ ฉันนั่งดูทีวีด้วยความสยดสยอง นึกถึงความทุกข์ทรมานของผู้ตาย
...

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า เป็นที่น่าเสียดายที่เราต้องสูญเสีย อ.ทวีพร ทองคำใบ

นักวิชาการช่างศิลป์ระดับ 7 คนดีๆ 1 คน ผู้ทรงไว้ซึ่งคุณูปการมากมาย มีผลงานของท่านทั้งปกหนังสือต่างๆ พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ฉลองพระชนมายุครบ 70 พระชันษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระฉายาสาทิสลักษณ์สมเด็จพระเทพฯ และคงไม่มีนักสะสมแสตมป์คนไหนไม่รู้จักชื่อของอาจารย์ทวีพร ผลงานล่าสุดของอาจารย์ คือ ชุดแสตมป์รุ่นปูชนียาจารย์ แสดงภาพพระภิกษุผู้เป็นที่นับถือหลายรูปด้วยกัน ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำ รวมทั้ง หนังสือที่ใช้แจกในวันเด็กที่จะถึงนี้

ฉันเดินไปหยิบ “ศรีชไมยาจารย์” หนังสือเชิญชูเกียรติ 2 อาจารย์ ที่พวกเราทุกคนในโครงการวิจัยกฎหมายตราสามดวงฯเคารพ คือ อ.ประเสริฐ ณ นคร และอ.วิสุทธ์ บุษยกุล ในนั้นมีภาพวาดที่ฉันประทับใจที่สุด ภาพที่แสดงออกถึงความเมตตาอาทรของท่านอาจารย์ทั้ง 2 ได้เป็นอย่างดียิ่ง และสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเจ้าของผลงาน

นั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้ฉันได้รู้จักฝีมือของ อ.ทวีพร ดูไปดูมาน้ำตาก็ไหล ฉันต้องคอยเอามือปาดน้ำตาเป็นระยะ เพราะเกรงว่ามันจะหยดลงบนภาพแสนรักของฉันนี้

ฉันหยิบหนังสืออีกหลายเล่มขึ้นมาดูผลงานของอาจารย์ เช่น ภาพภูมิสภานพระราชวังหลวง สมัยอยุธยา จากหนังสือ “กฎมณเทียรบาล ฉบับเฉลิมพระเกียรติ”, ภาพ อ.วุฒิชัย มูลศิลป์ จากหนังสือ “ปริทรรศ์ประวัติศาสตร์” รวมบทความเพื่อเป็นเกียรติแด่ อ.วุฒิชัย เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ, ภาพเขียนสีน้ำ แสดงการต่อพิสูจน์โดยการดำน้ำ จากสูจิบัตรงานประชุมสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง กฎหมายตราสามดวง: แว่นส่องสังคมไทย ฯลฯ

ฉันนึกถึงภาพชายวัยกลางคนที่ดูเป็นศิลปินมากๆ สุภาพ ใจดี มือถือกล้องถ่ายรูปชนิดฟิล์มรุ่นมือหมุน แต่ภาพถ่ายที่ออกมากลับสวยงามมีชีวิตเสียยิ่งกว่ากล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล ฉันคงไม่ได้เห็นอีกแล้วสินะ

ผู้สื่อข่าวก็ยังรายงานต่อไปเรื่อยๆ ว่าอาจารย์ต้องการช่วยชาติด้วยการขี่จักรยานไปกระทรวงศึกษาธิการที่ทำงานของอาจารย์ทุกเช้า เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยอาจารย์ระวังตัวเองมาโดยตลอด ใส่หมวก ใส่สนับแขนสนับขา แต่การระวังเพียงฝ่ายเดียวคงไม่เพียงพอที่จะทำให้ผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งรอดพ้นจากความประมาท ซึ่งแน่นอนไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้เช้าวันนี้ อ.ทวีพรไม่สามารถพาตังเองไปให้ถึงจุดหมายได้

ฉันนึกอะไรไปมากมาย ความตายเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการ โดยเฉพาะกับคนที่เรารัก โดยเฉพาะเมื่อมันมาแบบไม่ทันตั้งตัว, ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย แม้ความประมาทนั้นมิใช่เราเป็นผู้ก่อ, และสุดท้ายคือ “ทำไมคนที่กูรักคนที่กูนับถือต้องตายอีกแล้วว่ะ”

ทั้งนี้ เจ้าของบริษัทรถร่วมฯออกมาแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการชดใช้ค่าเสียหายแก่ญาติผู้เสียชีวิต เป็นเงิน 40,000 บาท!!??

เจ็บใจ...

ฉันเปิดทีวีไล่หาข่าวการเสียชีวิตของอาจารย์ แล้วมาหยุดที่ช่อง 7 ผู้สื่อข่าวรายงานถึง “ข่าวลือ” ว่า การเสียชีวิตของอ.ทวีพร มีผลมาจากการวาดภาพแสตมป์รุ่นปูชนียาจารย์ อันถือเป็นการลบหลู่???? จนผู้รับผิดชอบ(จำไม่ได้ว่าหน่วยงานไหน) ต้องออกมาแก้ข่าวว่า ในการจัดทำแสตมป์ครั้งนี้ ได้ทำการขอขมาแล้ว จึงไม่ใช้ด้วยเหตุนี้อย่างแน่นอน

เศร้าใจจริง…คนหนอคน

Saturday, October 15, 2005

ช่างแม่

ช่างแม่ ช่างของแม่ แม่ส่งช่างมาทำบ้านให้ ตกลงกันว่า เปลี่ยนชักโครกห้องน้ำ 2 ห้อง เอาอ่างออก ปูกระเบื้อแทนที่ ทำชั้นหนังสือใต้บันไดค่าแรง 5 พัน ไม่รวมค่าของ ช่างบอกว่า"ไม่กี่วันก็เสร็จ ชั้นหนังสือขึ้นโครงวันเดียว ชักโครกเนี่ย มีของก็ทำได้เลย แป๊ปเดียวเสร็จ" แต่ทว่า…

3 ครั้ง ที่ช่างเบี้ยวนัด

3 ครั้ง ที่ช่างมาทำงานแค่ 2 – 3 ชม. แล้วกลับ อ้างว่า อุปกรณ์ไม่พร้อม แล้วทำไมไม่เตรียมให้พร้อม(ว่ะ)

1 ครั้ง ที่ช่างมาต่อโครงเหล็กทำชั้นหนังสือ แต่เป็นชั้นหนังสือที่อุบาทว์มาก ต้องลื้อหมด… ตอนนี้โครงเหล็กอุบาทว์ๆก็ยังตั้งอยู่ ปวดใจจริง

และอีก 1 ครั้ง ที่ต้องเสียเวลาไปซื้อกระเบื้องที่ร้านประจำของช่าง ซึ่งตอนแรกมาดูกระเบื้องที่โฮมโปร สาขา แฟชั่นฯ แต่ไม่มีสีขาวด้านที่ต้องการ ดูที่โฮมมาร์ท แถวบ้านก็ไม่มีของ เค้ากำลังปรับปรุงสาขาอยู่ บล็อกแก้วที่โฮมโปรช่างก็บอกแพง ถูกสุดก้อนละ 54 บาท ช่างบอกว่า “เคยซื้อที่บุญถาวร แค่ 30 กว่าบาท” ช่างเลยเสนอไอเดียบันเจิด ให้ไปซื้อร้านประจำของมัน เอ๊ย…ของเค้า คือ ร้านบุญถาวร ช่างบอกว่า “ไม่ไกล บางนาเลยซีคอนไปนิดเดียว” เอ้า ไปก็ไป

ไกลมาก ออกไปทางมอร์เตอร์เวย์ ป้ายก็บอกว่า จะถึงพัทยา อยู่แล้วข้างหน้า แต่ก็ยังไม่ถึง เอาเถอะ ก็ออกมาแล้วนิ ไปให้ถึงก็แล้วกัน อ้า…ในที่สุดก็ถึง แม้จะเมื่อยตูดนิดหน่อย ก็ถือว่าคุ้ม จะได้ลงมือทำห้องน้ำกันซะที สั่งกระเบื้องสีขาว 3 กล่อง กับบัวสีเขียวอมฟ้าอีก 6 แผ่น ส่วนบล็อกแก้วราคาพอกัน เลยไปซื้อที่โอมโปร เพราะถูกใจลายมากกว่า ไม่ว่ากัน เสร็จแล้วก็อ้อมไปส่งช่างที่ป้ายรถที่ช่างจะสะดวกที่สุด ทั้งที่ หิวไส้จะขาดอยากจะกินข้าวก่อน แต่กลัวช่างจะกลับลำบากและเสียเวลาพี่ช่างเค้า เลยทนหิวไปก่อน คนดี

แต่ผลที่ได้คือ กระเบื้องสีเทา กับ บัวสีเขียว 4 แผ่น สีชมพู 2 แผ่น พนักงานหยิบผิด ผิดครับผิดไปหมด ไม่นับค่าน้ำมันไปกลับ 500 ค่ามอร์เตอร์เวย์อีก 60 บาท เวรกรรม

พี่ช่างก็ช่าง…ฮึม เห็นอยู่ว่ากระเบื้องสีเทา ไม่ใช่สีขาวก็ยังปูเข้าไปได้ กว่าจะเห็น พี่แกปูไปกล่องกว่าแล้ว เปลี่ยนไม่ได้อีก แพ็คเกจชำรุด กรรมของกรรม

สรุปว่า เสียตังค์ไป พันกว่าบาท ไม่ได้อะไรกลับมาเลย แล้วไอ้ที่ช่างบอกว่าบางนาน่ะนะ บางจริง แต่เป็นบางนา-ตราด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ไอ้บ๊า…าา

กลับมาดูกระเบื้องอีกหลายร้าน ที่สุด ได้กระเบื้องและบล็อกแก้วจากโฮมโปร ที่ดูไปที่แรก กรรมของกู

เหตุการณ์ปัจจุบันคือ ชักโครกน้ำซึม กระเบื้องบิดๆเบี้ยวๆที่จนแล้วจนรอดก็ยังปูไม่เสร็จ โครงเหล็กตั้งเด่ ช่างเบิกค่าแรงล่วงหน้า(เบิกไปเท่าไรไม่รุ เพราะเบิกจากแม่) เบิกค่ารถค่าน้ำมัน 1,200 บาท และสุดท้าย ช่างหนี...

...
...

ช่างแม่

Thursday, October 13, 2005

คิดฮอด...

คิดฮอดหลายๆ

อยากจะเขียนเรื่องใหม่ๆกะเค้าซะที

แต่ตอนนี้ขอตัวไปรบกับอ้ายช่างทำบ้านก่อนนะเจ้าค่ะ