sweetnefertari

we're gonna wish upon a star... we never wished upon before

Thursday, December 06, 2007

ลอยกระทง ๕๐


ลอยกระทงปีนี้พวกเรา มีโอกาสได้เดินทางไปที่จังหวัดสระบุรี

ตามคำสั่งฟ้าผ่าของผู้เป็นมารดาของอีฉันเอง

ถึงแม้จะไม่ได้ไปลอยที่ม.เกษตรกับรุ่นพี่รุ่นน้องเช่นทุกปี

แต่กลับมีเรื่องน่าสนุกกว่านั้น!??
...
และเหมือนอย่างเคย เราพักกันที่นี่คะ

กระท่อมทิพย์ ฮิลล์ รีสอร์ท

ทันทีที่ไปถึง ก็ต้องรีบออกเดินทางเพื่อไปดูขบวนแห่นางนพมาศ



ท่านผู้เฒ่ารูปข้างล่างนี้นี้มิใช่นางนพมาศ แต่เป็นหนึ่งในขบวนแห่ของหมู่บ้านหนึ่ง
แห่งตำบลลำพญากลาง
ถ้าเดาไม่ผิด ก็น่าจะเป็นคนที่เท้าไฟที่สุดในงานด้วยนะ
พาลให้คนทั้งงานมีรอยยื้มไปตามๆกัน



...
ดูมวยไทย

ที่มีตั้งแต่รุ่นกลางเกงกลอมเข่าวัยอนุบาล ยันรุ่นชายฉกรรจ์

ทั้งเตะต่อยเสียงดังเผียะผะ เห็นแล้วเจ็บแทน


...

ดูประกวดนางนพมาศ รอบดึก



...

ถึงเวลาลอยกระทง


อุตส่าห์ขอตามแบบฉบับนางเอก

คือ ขอสันติสุขจงมีแด่โลก

และขอธรรมชาติอย่าลงโทษเรามากไปกว่านี้เลย

แต่สงสัยจะขอยากไป

แค่พอลดกระทงลง กระทงยังไม่ทันแตะน้ำ เทียนก็ดับวูบลง

พาใจหายเสียอากัปไปชั่วขณะ แต่ยังประคองตัวไว้ได้




ค่ำคืนนี้ที่ยาวนาน

แต่ฉันคงอยู่ได้ไม่ตลอดคืน

เพราะยังมีภาระกิจอื่นที่ต้องทำต่อในเช้าวันใหม่

จึงต้องบอกลา เหล่านางงาม และนักมวยไปก่อน
...
จบจากภาระกิจลอยกระทง

ก็มา ดูเหล่าผึ้งล้อทานตะวัน




งานที่รออยู่คือถ่ายรูปทานตะวัน และรูปกรรมวิธีสลัดน้ำผึ้ง




กรรมวิธีสลัดน้ำผึ้งนี้ เอามาให้ดูพอหอมปากหอมคอนะคะ

(ไม่อย่างนั้น คงเรื่องยาว)

...

เสร็จแล้วจึงค่อยได้มาดูบรรดาสัตว์เลี้ยง

ที่ผลักพลากจากกันไปนานหลายเดือน

ทั้งหลายดีใจกันใหญ่



เสียดายอยู่อย่างที่กลับมาคราวนี้ พบว่า
สัตว์เลี้ยงที่รักหายไปหนึ่ง
คือเจ้าอาน หรือเจ้าเรื้อน
หมาไทยพันธุ์ผสม หลังอาน สีครีม
ซึ่งป่วยกระเสาะกระแสะอยู่แล้วจากอาการขี้เรื้อนเปียก
เจ้าอาน ไม่ยอมให้ใครจับ นอกจากฉัน
มันจึงไม่ได้รับการอาบน้ำ ไม่ได้รับการรักษาเท่าที่ควร
การมาสระบุรีครั้งนี้ มีสิ่งที่อยากทำ
คือการรักษาเจ้าอานให้ทุเลาจากโรคร้ายเรื้อรัง
ฉันซื้อแชมพูอาบน้ำรักษาขี้เรื้อนจากรพ.สัตว์เกษตร
ด้วยหวังจะกลับไปอาบน้ำให้มัน
แต่สายเกินไป
มันตาย
ตายเพราะออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านตามประสาหมาหนุ่มเดือน๑๒
ตายเพราะถูกคนทำร้าย

และมันตายก่อนที่ฉันจะไปถึง
เวทนาในความอาภัพของมัน
แต่ก็ไม่เท่ากับเสียใจ
ที่ยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อมันสักเท่าไร
ก่อนที่จะจากกันแบบนี้
ไม่มีแม้แต่รูปถ่ายของมัน เพราะเห็นว่ามันไม่สวย
มีแต่รูปถ่านวีดีโอตลกๆ
ตอนที่มันเอาก้นไถไปกับสนามหญ้าเพราะความคัน
เจ็บใจตัวเองนัก
...
ขากลับแวะดูเขื่อนป่าสักกันสักหน่อย ตามธรรมเนียม
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีอยู่ 2 ฝั่ง
ฝั่งนี้เป็นฝั่งลพบุรี





อีกฝั่งคือ อ.วังม่วง

มาคราวนี้ฝั่งวังม่วงแปลกตากว่าทุกปี

คือ มีพระพุทธรูปใหญ่
ประดิษฐานอยู่เหนือเขื่อนฝั่งอ.วังม่วง
นามของท่านคือ หลวงปู่ใหญ่


lll

เป็นอัน จบสิ้นภาระกิจ

เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร

โดยสวัสดิภาพ